การปฏิวัติการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มาถึงแล้ว คุณพร้อมแล้วหรือยัง?

การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับธุรกิจ

ในปี พ.ศ. 2559 รัฐบาลไทยได้นำเสนอนโยบายใหม่ที่เรียกว่า “ประเทศไทย 4.0” ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในระยะยาว 2 ประการ ได้แก่ เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และเพื่อให้เป็นประเทศเศรษฐกิจขั้นสูงในปี พ.ศ. 2575 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว รัฐบาลไทยร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านมาตรฐานและการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ กำลังส่งเสริมการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ หันมาเริ่มใช้งาน

ระบบ e-tax ในประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อแทนที่ใบกำกับภาษีแบบกระดาษในธุรกรรมทางธุรกิจทั่วไป บริษัทสามารถส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามความสมัครใจโดยใช้ระบบ e-Tax (ซึ่งมีไว้สำหรับออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ)

ระยะเวลาการดำเนินการ

ระยะเวลาในการใช้ระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัท ดังนี้:

  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 - ระบบเปิดให้บริการสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ (ยอดขายต่อปีมากกว่า 500 ล้านบาท) และบริษัทขนาดกลาง (ยอดขายต่อปีอยู่ระหว่าง 30 ถึง 500 ล้านบาท)
  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 - บริษัทขนาดเล็ก (ยอดขายต่อปีอยู่ระหว่าง 1.8 ถึง 30 ล้านบาท) สามารถใช้งานระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้
  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 – บริษัทขนาดเล็กมากๆ (ยอดขายต่อปีต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท) สามารถใช้งานระบบออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้

Implementation timeline

E-invoicing process description

คำอธิบายกระบวนการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

รัฐบาลไทยเลือกใช้ Clearance approach สำหรับการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยงานด้านภาษีต้องการให้ใบกำกับภาษีแต่ละใบได้รับอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ก่อนหรือระหว่างกระบวนการแลกเปลี่ยน เมื่อได้รับอนุญาตจากสำนักงานภาษีแล้วให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจัดทำและจัดเก็บใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์

 ผู้ประกอบการที่ต้องการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์/ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องได้รับการอนุมัติในฐานะผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก่อน โดยผู้แจ้งความจำนงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับที่ 15 พ.ศ. 2562 นอกจากใบกำกับภาษีแล้ว ยังมีเอกสารอื่นๆ ที่ต้องแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานด้านภาษี ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วย

เนื่องจากการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามขั้นตอนทางเทคนิคและกฎหมายที่ซับซ้อนโดยองค์กรต่างๆ รัฐบาลจึงพยายามสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการในการเปลี่ยนมาใช้การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในกิจกรรมนี้เป็นความคิดริเริ่มของสำนักงานเพื่อการพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งดำเนินการตามกระบวนการรับรอง (ETDA) สำหรับผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์เพื่อประเมินความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ส่งผลให้บริษัทโคมาร์ชได้รับใบรับรองอย่างเป็นทางการในฐานะผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (ผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรอง)

การเดินทางของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์/ใบรับอิเล็กทรอนิกส์มีลักษณะอย่างไร

How the e-tax invoice/receipt’s journey looks

How integrity and authenticity may be ensured?

จะรับประกันความสมบูรณ์และความถูกต้องได้อย่างไร?

ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ต้องประกอบด้วยสองลายมือชื่อดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดยวิธีการที่กำหนดและได้รับการสนับสนุนโดยใบรับรองและหมายเลขใบรับรองของผู้ลงนาม หมายเลขนี้ออกโดยหน่วยรับรองที่ได้รับอนุมัติของหน่วยงานด้านภาษี

What is the required format of an e-invoice

รูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นคืออะไร?

ใบกำกับภาษีอาจอยู่ในรูปแบบ XML (มาตรฐาน สพธอ.)

Archiving requirements for e-invoicing

ข้อกำหนดการเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย

เอกสารที่จัดทำในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และลายเซ็นดิจิทัลต้นฉบับเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นเอกสารจะต้องจัดเก็บในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (หากพิมพ์บนกระดาษจะถือว่าเป็นสำเนา) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ใบกำกับภาษี รายงาน สำเนาใบกำกับภาษีพร้อมเอกสารประกอบ ให้เก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือทำรายงาน

 

ทำไมบริษัทโคมาร์ชถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด?

เรามีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการดำเนินโครงการการแลกเปลี่ยนเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EDI), การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-invoicing) และโครงการแลกเปลี่ยนเอกสารอื่นๆ ทั่วโลก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับองค์กรมากกว่า 130,000 แห่งจากกว่า 60 ประเทศ

  • 1. การปฏิบัติตามกฎหมาย

    ปฏิบัติตามกฎระเบียบการแลกเปลี่ยนข้อมูลล่าสุดและมาตรฐานการถ่ายโอนข้อมูลที่ทันสมัย

  • 2. การแปลงเป็นดิจิทัล

    ใช้เทคโนโลยีใหม่และโซลูชันด้านไอทีเพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์และทำให้กิจกรรมและกระบวนการเป็นไปโดยอัตโนมัติ

  • 3. วิธีการส่วนบุคคล

    โซลูชันที่ปรับแต่งตามกระบวนการเฉพาะสำหรับแต่ละบริษัท – แผนที่นำทาง(Road map) ของตัวเองและการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสม

  • 4. ความปลอดภัย

    การรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดสำหรับข้อมูลบริษัทที่ละเอียดอ่อนและสำคัญทั้งหมด

    ลูกค้าของเรา

    แหล่งข้อมูลล่าสุด

    Tell Us Your Case 💬

    Upcoming RFP? More info about product and services? Talk integrations? Need a price estimation?

    Set up a discovery call with our experts